ประวัติ :
พระอ.ดร.สิงห์ทน นราสโภ
" ...บวชเรียนเป็นสามเณร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2493
บวชเป็นสามเณรเป็นเวลา 8 ปี ศึกษาขณะที่เป็นสามเณรได้เปรียญธรรม 4 ประโยค จากเชียงใหม่ หลวงพ่อทองคำ แห่งวัดถ้ำเชียงดาว ไปฝากให้อยู่ที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) กรุงเทพมหานคร และสอบได้เปรียญ 5 ประโยค และเปรียญ 6 ประโยค ติดต่อกันโดยไม่สอบตกเลย (ในยุคนั้น เปรียญธรรม 6 ประโยค เทียบเท่ากับวุฒิ ม.8) พร้อมกันนั้นก็ได้สอบผ่าน มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และได้เรียนอยู่ที่มหาจุฬาฯ ด้วยความที่ใช้เวลาในการเรียนเร็วกว่าปกติ จึงทำให้มีปัญหา และต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ในการสอบได้เปรียญ 7 ประโยค และศึกษาจนจบชั้นปริญญาตรี ที่ มหาจุฬาฯ.....
...เมื่อสอบได้เปรียญ 7 ประโยค และจบชั้นปริญญาตรีแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุนจาก หลวงพ่อทองคำ ให้ไปศึกษาในระดับปริญญาโทต่อยังประเทศอินเดีย ด้วยการสอบชิงทุนของสภาพระธรรมกถึก ได้ทุนการศึกษาของหลวงพ่อทองคำด้วย และทุนของสภาพระธรรมกถึกด้วย จนได้ไปศึกษาต่อที่ มหา วิทยาลัยวิศวภารตี ศานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย จนจบระดับปริญญาเอก.... "
DVD เปิดบันทึกตำนาน ตอน พระอาจารย์ดร.สิงห์ทน สถานปฏิบัติธรรมนเรศดอยเชียงดาว
อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
เปิดบันทึกตำนาน ตอน พระอาจารย์ดร.สิงห์ทน สถานปฏิบัติธรรมนเรศดอยเชียงดาว
อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ :
ที่มา : Youtube Chanel : เปิดบันทึกตำนาน (OFFICIAL)
เผยแพร่เมื่อ 1 ธ.ค. 2016
สามารถติดตามรายการ "เปิดบันทึกตำนาน"
ได้ที่ https://www.facebook.com/perdbuntueg?...
พระอ.ดร.สิงห์ทน นราสโภ
นามเดิม สิงห์ทน คำซาว
บุตรนายผึ้ง-นางเขี้ยว คำซาว
เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2479
ณ บ้านเลขที่ 176 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 13 ปี ณ วัดอินทาราม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2493 แล้วย้ายไปศึกษาต่อ โดยทุนของ หลวงพ่อทองคำ ฐิตสีโล ณ วัดสิงห์วรมหาวิหาร ศึกษา
ภาษาบาลี และนักธรรม จบ น.ธ.เอก และ ป.ธ. 4 แล้วย้ายไปเรียนต่อ ณ กรุงเทพมหานคร พักอยู่ ณ
วัดราชวรินทร์ ชั่วคราว แล้วย้ายไปเรียนต่อ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน)
รับการอุปสมบทเป็นพระโดย สมเด็จพระสังฆราชป๋า (ปุ่น ปุณฺณสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระธรรมเสนานี (ฟุ้ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมา วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน)
แล้วเรียนต่อจนจบ ป.ธ. 7, พม., พธ.บ.,M.A. และ PH.D. ทางปรัชญา จากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร และจาก มหาวิทยาลัยวิศวภารตี ศานตินิเกตัน ประเทศอินเดีย โดยลำดับ
ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระปิฎกโกศล และ พระทักษิณคณาธิกร พระปลัดขวาของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระ
เชตุพนฯ เป็นรองเลขาธิการ มหาจุฬาฯ เป็นรองเจ้าคณะภาค 12 ปกครองปราจีณบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา
เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นหลังจากการเขียนหนังสือ " วิธีปลุกพระสมเด็จพระศักดิ์สิทธิ์ วัดโพธิ์ " เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชป๋า (ปุ่น ปุณฺณสิริ) สิ้นพระชนม์ได้ลาสิกขา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 อยู่เป็นฆราวาส 19 ปี
ได้ใช้ชีวิตสอนวิชาปรัชญา และศาสนา ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทำสวนผลไม้ แล้วได้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุ ได้อุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 (ตรงกับวันที่ลาสิกขาครั้งก่อน) โดยมี พระครูเวฬุวันพิทักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ทำหน้าที่เป็น พระธรรมทูตต่างประเทศ จนกระทั่งปัจจุบัน